วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557

เล็บกุด...(ตอนจบ) วิธีรักษาเล็บที่ติดเชื้อรา

          โรคเชื้อราที่เล็บ


          อันดับแรกเราต้องมาทำความเข้าใจถึงโรงเชื้อราที่เล็บก่อนนะครับ ว่า โรคนี้ไม่ใช่โรคที่ติดต่อกันได้ง่ายๆและไม่ใช่โรคร้ายแรงถึงขั้นต้องตัดนิ้วตัดแขน เพียงแต่โรคนี้อาจทำให้คุณเสียบุคลิกภาพ หรือเสียเล็บไปตลอดกาล ฟังดูแล้วไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องเล็กเหมือนกัน ถ้าใครได้เป็นแล้วไม่ต้องตกใจนะครับ โรคนี้รักษาหายขาดได้ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาของคุณว่าจะเอาใจใส่มันขนาดไหน
          โรคเชื้อราที่เล็บ (Onychomycossis) คือโรคติดต่อภายนอกที่มีเชื้อราเป็นสาเหตุในการเกิดโรค เมื่อได้เป็นโรคนี้แล้วการรักษาให้หายขาดมีวิธีทำได้ง่าย แต่ต้องใช้ระยะเวลาที่นานพอสมควร ถ้าหากรักษาไม่ต่อเนื่องจะทำให้กลายเป็นเชื้อราเรื้อรัง และอาจจะลามสู่เล็บข้างๆได้เช่นกัน
       

               สาเหตุและอาการที่บ่งบอกว่าคุณกำลังติดเชื้อราที่เล็บ

         สาเหตุในการติดเชื้อราที่เล็บมีอยู่หลายปัจจัยด้วยกัน ทั้งการอ่อนแอของภูมิคุ้มกันในร่างกาย เช่น เป็นโรคเบาหวาน โรคขาดสารอาหาร หรือการสัมผัสโดยตรงกับเชื้อรา และการเกิดขึ้นเองเพราะความอับชื้นตามธรรมชาติ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสาเหตุได้ทั้งหมด ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพให้อยู่ในสุขอนามัยที่ดี
         อาการ      
        การติดเชื้อราที่เล็บจะสังเกตุได้ง่าย ดูด้วยตาเปล่าวจะเห็นได้ชัดเจน
             - เล็บมีแถบสีขาวกินลึกผิดสังเกตุ
             - เล็บหนาขึ้นเวลาตัดเล็บจะรู้สึกว่านุ่มและเป็นขุย
             - เล็บเปลี่ยนสีเมื่อเทียบกับนิ้วอื่น
           
       

การรักษา

          การรักษาเชื้อราที่เล็บมี 2 วิธีในการรักษาด้วยกันคือ รักษาด้วยการทานยา และการรักษาด้วยการทายาภายนอก การรักษาทั้ง2 วิธีนี้ล้วนแล้วแต่เป็นการรักษาที่ใช้เวลานาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า เชื้อรามีมากขนาดไหน การดูแลเอาใจใส่ในการรักษาของเรานั้นมากน้อยเพียงใด บางรายอาจจะหายขาดในเวลาอันสั้น แต่บางรายอาจจะกินเวลาไป 1-2 ปีในการรักษา ที่สำคัญการที่เราจะได้รับการรักษา เราต้องตรวจสอบอย่างละเอียดจากแพทย์เฉพาะทางตามโรงพยาบาลเท่านั้น เพราะหากไม่ใช่เชื้อราเราอาจจะเสียเวลา เสียเงินในการรักษา หรือเรียกว่าการรักษาไม่ถูกโรคได้
       
  1.การรักษาเชื้อราที่เล็บด้วยวิธีการทานยา 
          ยาที่ใช้ในการรักษาเชื้อราที่เล็บเป็นยาประเภทต่อต้านเชื้อราและเป็นยาที่ต้องทานเป็นประจำเป็นเวลาที่นานไม่ต่ำกว่า 8 เดือนขึ้นไป ผู้ที่รับการรักษาด้วยยาจำนวนมากจึงมีความอดทนไม่มากพอและเลิกรักษาไป และการทานยาติดต่อกันเป็นเวลานานๆนั้น ไม่เป็นผลดีต่อตับ ปัจจุบันจจึงมียาต้านเชื้อรารูปแบบใหม่ ที่ใช้เวลาในการรักษาด้วยการทานยาน้อยลงจากเดิมโดยการทานยา 7 วันต่อ 1 เดือน ทานจนกว่าจะหายขาด ซึ่งบางรายหายได้เพียงเวลา 2-3 เดือน หรือกินยา 3 ชุด เท่านั้นเอง
       
  2. การรักษาโดยวิธีการรักษาภายนอก
           การรักษาโดยวิธีการรักษาภายนอกเป็นอีก 1 วิธีที่ได้ผลดีเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่แล้ววิธีนี้จะใช้กับผู้ที่แพ้ยา และผู้ที่สุขภาพไม่ดี มีปัญหาต่อตับ เพราะการรักษาภายนอกนั้นจะไม่ได้กินยาเลยเพียงแต่หมั่น
รักษาความสะอาด พยายามอย่าให้เล็บเปียก หรือควรจะทำให้เล็บนั้นแห้งตลอดเวลา ประกอบกับการทายาที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น