ก่อนที่จะมี G-shock โลกคุ้นเคยกับนาฬิกาที่มีรูปลักษณ์เรียบๆ ซึ่งไม่มีความโดดเด่น
หรือแตกต่างกันมากเท่าไหร่ จนกระทั่งเมื่อ 3 ทศวรรษที่แล้ว มร.คิคุโอะ อิเบะ วิศวกรของ บริษัท คาสิโอ
ได้คิดค้นเจ้านาฬิการูปร่างประหลาด ต่อมาได้มีผลต่อประวัติศาสตร์ด้านเทคโนโลยี
และแฟชั่นไปตลอดกาล
วันนี้เราจะมาดูที่มาที่ไปของการกำเนิดเจ้านาฬิกาที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน
สีสันที่สวยงามอย่าง G-Shock กัน
เมื่อปี 1978 มร. คิคุโอะ อิเบะ
เริ่มทำงานที่คาสิโอ ซึ่งคาสิโอ บริษัทเล็กๆ ที่เป็นผู้ผลิตนาฬิกา ที่เน้นระบบดิจิตอล
เป็นหลัก โดยตอนนั้น มร.คิคุโอะ อิเบะ อายุเพียง 23 ปีเท่านั้น เหตุผลที่เริ่มงานที่ คาสิโอเนื่องจากเห็นว่า ตนเพิ่งเรียนจบ
จึงควรทำงานที่บริษัทเล็กๆเพื่อจะได้มีโอกาสแสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่การผลิตนาฬิกา G-Shock ได้แรงบันดาลใจจากเมื่อครั้งยังเด็ก มร.คิคุโอะ
ได้รับนาฬิกาเป็นของขวัญจากคุณพ่อ แต่ได้ทำหล่นจนแตก
ทำให้อยากทำนาฬิกาที่มีความทนทาน
มร. คิคุโอะ ได้ใช้เวลา 3 ปี ในการคิดค้น ออกแบบ นาฬิกา G-Shock ประสบความสำเร็จในการพัฒนานาฬิกา
“Triple 10” ที่มีคุณสมบัติทนแรงกระแทกจากการตกบนพื้นได้ถึง
10 เมตร, กันน้ำได้ระดับ
10 บาร์
และมีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ถึง 10 ปี จากนั้นการพัฒนานาฬิกา “G-Shock”
ก็ประสบความสำเร็จ
และสามารถผลิตโมเดลแรกออกมาให้ตื่นตาตื่นใจในปี 1983 โดยทีมงานของผมได้คิดค้นนำพลาสติกที่มีความยืดหยุ่นสูงและทนแรงกระแทกได้ดีอย่าง
“ยูรีเทน” มาผลิตเป็นตัวเรือนนาฬิกาครั้งแรกในโลก
ด้วยแรงบันดาลใจจากคุณสมบัติเด่นของลูกบอลยาง พร้อมกันนี้
ก็ปรับตัวเครื่องด้านในให้ลอยไม่ยึดติดกับตัวเรือน
ทำให้สามารถกระจายแรงกระแทกจากด้านนอกได้ ตัวเรือนจึงไม่ได้รับความเสียหายง่ายๆ
ตั้งแต่เริ่มวางขายในปี
1983 มาจนถึงปี 1990
“G-shock” ยังไม่เป็นที่ยอมรับเท่าไหร่ คือขายไม่ดี
และสื่อก็ไม่สนใจเลย แต่พอเข้าสู่ยุคต้นทศวรรษ 1990 จู่ๆกลับเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ยอดขายทะลุเพดาน และสื่อญี่ปุ่นต่างก็ให้ความสนใจนำเสนอข่าวเกี่ยวกับ “G-Shock”
จุดเปลี่ยนสำคัญมี 2 ช่วงคือ ช่วงก่อนปี 1990
เราผลิต “G-Shock” แค่ 2 สี คือ ดำและเหลือง ทำให้ไม่โดนใจวัยรุ่นเท่าไหร่
เป็นเพียงนาฬิกาของช่างและผู้ใช้แรงงาน แต่หลังจากต้นทศวรรษ 1990 มีการปรับเปลี่ยนนาฬิกาให้มีสีสันหลากหลายขึ้น
ประกอบกับสื่อในญี่ปุ่นให้ความสนใจนำเสนอข่าวอย่างคึกคัก จึงทำให้ “G-Shock”
ขายดี
กลุ่มลูกค้าหลักในยุคแรกจึงจำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มช่าง
และผู้ใช้แรงงาน ที่ทำงานสมบุกสมบัน ทำให้ยอดขายในช่วง 10 ปีแรกลุ่มๆดอนๆ
แต่ทาร์เก็ตเปลี่ยนไปในช่วงต้นทศวรรษ 1990 เมื่อเราเน้นเรื่องการพัฒนาสีสันและดีไซน์ให้โดดเด่นทันสมัยยิ่งขึ้น
“G-Shock” จึงขยายความนิยมสู่วัยรุ่น, คนทำงาน
และยิ่งฮิตฮอตเมื่อนักกีฬาสเกตบอร์ดหันมานิยมใส่ “G-Shock”
จนถึงวันนี้ นาฬิกา G-shock ก็ได้โลดแล่นอยู่บนข้อมือมานาน 30ปีแล้ว
ในปี ค.ศ.2013 นาฬิกา G-shock ก็ได้มีอายุ
30ปีพอดี ในปีนี้ก็คงจะมีนาฬิการุ่นพิเศษจาก G-shock ออกมากันมากมาย เพื่อให้ผู้บริโภคอย่างเราได้สวมใส่แฟชั่นบนข้อมือ และให้สะสม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น