การใช้ไอน้ำรักษาสิว
บทความนี้จะมาพูดถึงการรักษา บรรเทาอาการของสิวที่ผู้เขียนได้ปฏิบัติเห็นผลดี การรักษานี้ขอใช้ชื่อว่า "การรักษาสิวด้วยไอน้ำ" คล้ายๆการอบซาวน่า หรือการอบไอน้ำ เพียงแต่วิธีนี้เราเน้นเพียงใบหน้าเท่านั้น และประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าเยอะ ทุกๆคนก็ทำได้ไม่ยากเพียงใช้เวลาไม่เกิน 15 นาทีต่อครั้ง และยังเห็นผลในครั้งแรกที่ทำสิว

อุปกรณ์
1. เครื่องต้มน้ำร้อน ไม่ว่าจะเป็น กระทะไฟฟ้า กาต้มน้ำร้อนไฟฟ้า หม้อหุงต้ม+เตาแก๊ซ ใช้ได้หมด แต่แนะนำให้ใช้หม้อต้ม+เตาแก๊ซจะดีกว่า
2. โฟมหรือสะบู่เหลวสำหรับล้างหน้า ต้องเป็นโฟมหรือสบู่ที่ใช้ล้างหน้าแล้วไม่เกิดอาการแพ้
3. น้ำอุ่น
4. น้ำสะอาด
5. ผ้าสำหรับเช็ดหน้า
วิธีที่ปฏิบัติ
การใช้ไอน้ำรักษาสิวนั้น ควรจะปฏบัติช่วงเย็นก่อนอาบน้ำเข้านอนถึงจะเห็นผลที่สุด วิธีปฏิบัติมีขั้นตอนดังนี้
1. ล้างหน้าด้วยน้ำปล่าวให้สิ่งสกปรกหลุดออกโดยประมาณ
2. ตั้งน้ำต้มให้เดือด
3. ผ่อนไฟลงให้ต่ำสุด หรือใช้ไฟต้มน้ำให้เดือดน้อยที่สุด
4. ชะโงกหน้าให้ใบหน้าโดนไอน้ำที่ขึ้นมาจากน้ำที่เดือดระยะห่างพอประมาณ (วิธีการนี้สำคัญเวลาทำต้องใช้ความระมัดระวังสูง เนื่องจากความร้อนจากอุปกรณ์ต้มน้ำ และน้ำที่ร้อนอาจก่อให้เกิดอันตรายได้)
5. เป่าลมจากปากลงในหม้อต้มเบาๆ ให้เกิดไอน้ำมากขึ้น กลั้นหายใจ 5-10 วินาที แล้วเงยหน้าขึ้นมาหาใจตามปรกติ
6. ทำข้อ4 ข้อ5 ซ้ำประมาณ 5-15 นาที หรือสังเกตุดูจากกระจก หรือลองแตะๆบนใบหน้าว่ามีไขมันละลายออกมาหรือยัง ถ้ามีไขมันออกมามากพอแล้วก็ทำตามวิธีต่อไป
7. ใช้น้ำอุ่นล้างหน้าเบาๆ แล้วขยี้โฟมหรือสบู่เหลวสำหรับล้างหน้า ถูให้ทั่วใบหน้าเบาๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
8. ซับหน้าด้วยผ้าเซ็ดหน้า เป็นอันเสร็จเรียบร้อยกระบวนการ
ประโยชน์ที่จะได้รับ
1. ความร้อนจากไอน้ำ ทำให้โลหิตไหลเวียนดีขึ้น เลือดบริเวรใบหน้าสูบฉีด ได้รับออกซิเจนจากร่างกายมากขึ้น สงผลทำให้ใบหน้าเปล่งปลั่ง และดูเนียนใจ
2. รูขุมขนดูกระชับขึ้น เนื่องจากไขมันละลายออกจากการอุดตันของรูขุมขน
3. ลดการอักเสบ และการอุดตันของสิว
4. ความร้อนจากไอน้ำกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ต่อต้านเชื้อประเภทแบคทีเรีย
โทษที่ได้รับ
1. เปลืองเงินในการใช้แก๊ซ ใช้ไฟฟ้า หากมีการปฏิบัติทุกวัน
2. ถ้าปฏิบัติโดยไม่ระมัดระวัง อาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้
ข้อควรระวัง
1. ผู้ที่มีโรคความดันโลหิต หรือผู้ป่วยโรคอื่นๆที่มีอาการวิงเวียศรีษะไม่ควรปฏิบัติ เนื่องจากขั้นตอนการปฏิบัติจำเป็นต้องก้มๆเงยๆ อยู่ตลอด อาจทำให้ผู้ป่วยวิงเวียนศรีษะ หน้ามืด หัวฟาดหม้อน้ำที่กำลังเดือดจนได้รับอุบัติเหตุได้ หรือหากต้องการปฏิบัติควรมีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด
2. เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี ไม่ควรปฏิบัติ เนื่องจากผิวบนใบหน้ายังอ่อนหลังการปฏิบัติแล้วอาจเกิดผิวหนังลอกเนื่องจากความร้อน ถ้าจำเป็นต้องปฏิบัติควรใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที และน้ำควรจะไม่เดือดมาก
3. เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีห้ามปฏิบัติโดยเด็ดขาด เนื่องจากอาจเกิดอันตรายต่อผิวและเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ง่าย
4. ให้ปฏิบัติตามวิธีอย่างเคร่งครัด ไม่ควรทำนอกเหนือจากวิธีปฏิบัติ เช่น นำสมุนไพรใส่ในน้ำต้ม เพราะผิวหน้าอาจจะแพ้ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น