หลายๆคนคงได้ยินข่าวเกี่ยวกับข่าวสะเทือนใจที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
เมื่อคนหนึ่งเกิดอาการลมชัก
ซึ่งเป็นอาการของโรคประจำตัวเกิดขึ้นขณะที่เขาขับรถทำให้ควบคุมรถไม่ได้และได้พุ่งชนเด็กๆ
จนทำให้มีผู้เสียชีวิต ทุกคนที่ได้ยินข่าวต่างตั้งคำถามว่าแล้วคนเป็นโรคนี้ขับรถได้ด้วยเหรอ
แล้วเค้าได้ใบขับขี่ได้ยังไง เราลองไปดูกันว่าเป็นโรคอะไรไม่ควรขับรถ
มีอาการแบบไหนเสี่ยงอันตรายต่อการขับรถ กรมควบคุมโรค แจกแจงให้ฟังแล้ว
แม้ว่าโรคและปัญหาสุขภาพบางประการไม่ได้เป็นข้อห้ามของการทำใบขับขี่
แต่ต้องยอมรับว่า บางโรคหากเกิดอาการกำเริบขึ้น
ก็มีผลกระทบต่อสมรรถภาพการขับขี่ และอาจเป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้ นพ.โสภณ
เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค ก็ได้เผยข้อมูลให้ทราบกันว่า 9 โรคและปัญหาสุขภาพต่อไปนี้
อาจส่งผลกระทบต่อการขับขี่ได้ นั่นคือ
1.
โรคที่เกี่ยวกับสายตา เช่น ต้อหิน ต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม
คนที่มีปัญหาสายตาจะทำให้มองทัศนวิสัยไม่ชัด
โดยเฉพาะในตอนกลางคืนซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
2. โรคทางสมองที่ยังเป็นไม่มาก แต่ก็ทำให้มีอาการหลงลืม
ทำให้ตัดสินใจช้า สมาธิไม่ดีนัก และอาจเกิดปัญหาขับรถหลงทางในบางครั้ง
3. โรคหลอดเลือดสมอง แขนขาไม่มีแรง
อาจเกิดปัญหาขากระตุก ไม่มีแรงขณะเหยียบคันเร่ง เหยียบเบรก หรือเปลี่ยนเกียร์
ส่งผลต่อการขับขี่ และทหใความไวต่อการตอบสนองเหตุการณ์ต่าง ๆ ลดลง
4. โรคพาร์กินสัน จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการมือสั่น
เกร็ง ทำอะไรได้ช้า ขับรถได้ไม่ดี
5. โรคลมชัก หากอาการกำเริบขึ้นจะมีอาการเกร็งกระตุก
ไม่รู้สึกตัว อันตรายต่อผู้ใช้ทางรอบข้าง
6. โรคข้อเสื่อมข้ออักเสบ หากมีอาการปวดบริเวณต่าง ๆ เช่น
ข้อเข่า ก็ทำให้เหยียบเบรกได้ไม่เต็มที่ หรือถ้ากระดูกคอเสื่อม ก็ทำให้หันคอ
หันหน้าดูการจราจรได้ลำบาก
7. โรคหัวใจ หากมีอาการเครียดมาก ๆ
เกิดขึ้นจากสภาพการจราจรที่ติดขัด อาจทำให้เกิดอาการแน่นหน้าอกได้
8. โรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคเบาหวานอาจมีอาการหน้ามืด ตาพร่า
ใจสั่น เป็นคนอีกกลุ่มที่ต้องระวัง
9. การกินยาหลายชนิด ยาบางชนิดมีฤทธิ์ง่วงซึม เมื่อไปขับรถจะเกิดอาการมึนงง หลับใน
ตัดสินใจช้า ตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้ช้า ดังนั้น
จึงมีคำแนะนำให้นอนพักผ่อนหลังทานยาประเภทนี้
แล้วรู้ไหมว่าปัจจุบันนี้
กฎหมายกำหนดโรคต้องห้ามในการขับขี่รถยนต์เพียงแค่ไม่เป็นโรคติดต่อเป็นที่รังเกียจ
ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต และไม่ติดสุรา ยาเสพติด ซึ่งถือว่าไม่เพียงพอ
ทางกรมการขนส่งทางบกและแพทยสภา
จึงกำลังพิจารณาเสนอโรคที่เป็นอุปสรรคต่อการขับรถโดยตรง
เพื่อให้เกิดความปลอดภัยบนท้องถนน คือ
1. โรคระบบประสาท
เช่น โรคลมชัก โรคกล้ามเนื้อลีบ อ่อนแรง ทั้งมือ เท้า ความพิการ
2. โรคระบบการมองเห็น
เช่น โรคตาบอดสี มองเห็นด้วยตาเพียงข้างเดียว
3. โรคระบบการได้ยิน
4. โรคหัวใจและโรคเรื้อรังอื่น
ๆ เช่น ประวัติการผ่าตัด เป็นต้น
ใครที่รู้ตัวว่าตัวเอง
หรือคนรอบข้างมีลักษณะอาการหรือโรคต่อไปนี้อยู่ ก็ขอให้หลีกเลี่ยงการขับรถ
โดยเลือกใช้รถโดยสารสาธารณะ หรือไหว้วานให้คนอื่นขับรถให้
น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด นอกจากปกป้องชีวิตตัวเองแล้ว
ยังป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียขึ้นกับบุคคลอื่นที่ใช้ถนนร่วมกันด้วย
กันไว้ดีกว่าแก้นะคะเรามาช่วยกันสร้างสังคมให้น่าอยู่มากขึ้นกันดีกว่าค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น