หลักสูตร/จัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ในแต่ละระดับ
การจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ในประเทศนิวซีแลนด์ เน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ เพื่อให้เกิดทักษะกระบวนการ ซึ่งประกอบด้วย การสังเกต การวางแผน การจัดกระบวนการ การสื่อความหมาย และการรายงานผล โดยทักษะกระบวนการที่เกิดขึ้นเหล่านี้ สามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงกับสิ่งต่างๆรอบตัว ซึ่งได้แก่
- N Making Sense of the Nature of Science and its Relationship to Technology
- L Making Sense of Living World
- M Making Sense of Material World
- P Making Sense of Physical World
- E Making Sense of Planet Earth and Beyond
มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่มีชีวิตกับกระบวนการดำรงชีวิต และความหลากหลายทางชีวภาพ และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิติกับสิ่งแวดล้อม
- มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับลักษณะ คุณสมบัติและการเปลี่ยนแปลงของวัสดุต่างๆ รอบตัว
- มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้าง ลักษณะทางกายภาพและองค์ประกอบของโลก
- มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ
- สามารถนำความรู้พื้นฐานประยุกต์ใช้ได้อย่างสร้างสรรค์ มีเจตคติที่ดีต่อวิทยาศาสตร์
- สามารถนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสม
แนวทางการปรับปรุง/พัฒนาการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์
- จัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาศักยภาพของครูผู้สอนวิทยาศาสตร์อย่างต่อเนื่อง ตลอดเวลา ติดตามและประเมินผลเพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
- ปรับปรุงและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์จากปัญหาที่พบ ตัวอย่างเช่น นักเรียนมีความเข้าใจเนื้อหาทางวิทยาศาสตร์ที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งข้อมูลนี้อาจปรากฏขึ้นจากการวัดผลประเมินผลหรือจากผลการวิจัย คณะครูร่วมปรึกษาหารือวิธีการในการแก้ปัญหา
การติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา
ตรงนี้ที่เป็นหัวใจที่สำคัญของการปฏิวัติการศึกษา ถ้ามีแนวทางการศึกษาของชาติ มีหลักสูตรอย่างดี แต่ขาดการติดตาม ประเมินผลจะไม่สามารถวัดความสำเร็จได้เลยว่า ผลผลิตของการศึกษานั้นได้มาตรฐานจริงหรือไม่ ดังนั้นเมื่อได้มีการกระจายอำนาจการจัดการศึกษาไปแล้วสิ่งที่ประเทศนิวซีแลนด์เป็นห่วงอย่างมากก็คือ คุณภาพ และมาตรฐานของการศึกษา จึงได้ตั้งหน่วยงานติดตามและประเมินผลการจัด
การศึกษาแยกเป็น 2 ระบบ คือ
1. การติดตามและประเมินผลภายใน ( Internal Evaluation )
2. การติดตามและประเมินผลภายนอก ( External Evaluation )
การติดตามและประเมินผลภายใน ระดับกระทรวงมี 3 หน่วยงาน คือ
- สำนักประเมินและตรวจสอบภายใน ( Internation Audjt Division ) ทำหน้าที่ตรวจสอบการปฏิบัติงานของหน่วยงานส่วนกลางว่าบรรลุผลตามนโยบายของรัฐเพียงใด
- กลุ่มบริหารนโยบาย ( Implementation Group ) ทำหน้าที่กำกับดูแลธรรมนูญของโรงเรียนและติดตามการบริหารของคณะกรรมการบริหารโรงเรียน
- สำนักงานรับรองคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของประเทศนิวซีแลนด์ ( Nee Zealand Qualifications Authority ) ทำหน้าที่ทดสอบความรู้และทักษะเพื่อให้การรับรองคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียนและนักเรียนทั้งสายสามัญ และสายอาชีพ โดยมีการทดสอบเทียบเกณฑ์มาตรฐานรายวิชา และการสอบปลายภาคของชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายทั่วประเทศ
การติดตามและประเมินผลภายนอก ดำเนินการโดยสำนักงานตรวจสอบคุณภาพการศึกษา ( Education Review Office - ERO ) ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระ ไม่ขึ้นกับกระทรวงศึกษาธิการ ทำหน้าที่ติดตามประเมินผลการจัดการศึกษาของโรงเรียนและคณะกรรมากรบริหารโรงเรียน ตั้งแต่ระดับก่อนประถมศึกษาจนกระทั่งถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย ว่าเป็นไปตามแนวทางแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาและธรรมนูญโรงเรียนหรือไม่ โดยเป็นการตรวจสอบในลักษณะถ่วงดุลกับการประเมินภายใน เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนของโรงเรียน ดังนั้น ERO จึงเป็นองค์กรที่มีบทบาทคล้ายกับ OFSTED ของประเทศอังกฤษ ERO มีบุคลากรทั้งสิ้น 160 คน ในจำนวนนี้ 110 คน เป็นผู้ตรวจที่ได้รับการรับรองโดยการจดทะเบียน ทำหน้าที่ตรวจสอบการศึกษาของโรงเรียนในเขตรับผิดชอบให้ครบทุกโรงเรียนภายในช่วงระยะเวลา 5 ปี เนื่องจากรัฐกำหนดให้โรงเรียนทุกแห่งในประเทศต้องได้รับการตรวจสอบจากสำนักงานตรวจสอบคุณภาพการศึกษา (ERO) ผู้ตรวจ ERO จึงมีอำนาจในการเข้าไปตรวจสอบโรงเรียนตามกฎหมาย มีสิทธิท้วงติง และเสนอแนะโดยที่สถานศึกษาจะต้องปฏิบัติตามข้อเสนอแนะนั้น
ขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพการศึกษาของ ERO มีดังนี้
- คณะผู้ตรวจสอบของ ERO แจ้งให้คณะกรรมการบริหารโรงเรียนทราบกำหนดเวลา และประเด็นที่จะตรวจสอบ ซึ่งได้แก่ กระบวนการจัดการเรียนการสอน และผลการดำเนินงาน
- คณะกรรมการบริหารโรงเรียนจัดส่งข้อมูลแก่ ERO ซึ่งประกอบด้วยรายงานเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของโรงเรียน ข้อมูลเกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน รายงานการติดตามผลของคณะกรรมการบริหารโรงเรียน ธรรมนูญของโรงเรียน แผนพัฒนาโรงเรียน รายงานประจำปี คำอธิบายรายวิชาต่างๆ ตารางเรียน ตารางแสดง หน้าที่ความรับผิดชอบของครู รายละเอียดงบประมาณประจำปี ฯลฯ
- ผู้ตรวจสอบของ ERO เข้าตรวจเยี่ยมโรงเรียน โดยเข้าสังกัดการสอนของครูการจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร และการทดสอบผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน โดยสุ่มตัวอย่างนักเรียนมาทดสอบความรู้ในวิชาต่างๆ ตลอดจนศึกษาความเห็นของผู้ปกครอง และชุมชนที่มีต่อโรงเรียน
- ผู้ตรวจส่งร่างรายงานผลการตรวจสอบให้คณะกรรมการบริหารโรงเรียนพิจารณายืนยันว่าถูกต้องตรงกับข้อเท็จจริงหรือไม่ หากไม่ถูกต้องจะมีการหารือกันในลักษณะของการมรส่วนร่วมและยอมรับซึ่งกันและกัน
- ผู้ตรวจส่งรายงานผลฉบับที่ยืนยันแล้วให้คณะกรรมการบริหารโรงเรียนทราบอย่างเป็นทางการ เพื่อดำเนินการปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะ ให้แล้วเสร็จภายใน 20 วัน แล้วรายงานให้ ERO ทราบ
- ส่งรายงานผลการตรวจสอบฉบับสมบูรณ์ไปยังกระทรวงศึกษาธิการ ผู้ปกครองและสื่อมวลชน เพื่อเผยแพร่ให้สาธารณชนได้ทราบทั่วกัน
เนื่องจากการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษามีตวามสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินงานจัดการศึกษา และสำนักงานตรวจสอบมีอำนาจเต็มที่ในการชี้วัดความสำเร็จของโรงเรียนจึงจำเป็นต้องมีมาตรฐานทางวิชาชีพ และรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานดังกล่าวอย่างเคร่งครัด เงื่อนไขของการรักษามาตรฐานการตรวจสอบก็คือ ข้อมูลในรายงานผลการติดตามตรวจสอบจะต้องมีความเที่ยงตรง และสร้างสรรค์ผู้ตรวจต้องเป็นผู้ที่มีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถ เชี่ยวชาญในอาชีพ มีประสบการณ์การสอนและได้รับการฝึกอบรม เรื่องการประเมินมาเป็นอย่างดี เป็นผู้ยึดมั่นในคุณธรรม มีความยุติธรรม หมั่นทบทวนตนเองและผู้ร่วมงานด้วยกันอยู่เสมอ มีการนิเทศ รวมทั้งการรับฟังการประเมินย้อนกลับจากกลุ่มโรงเรียนเพื่อปรับปรุงการทำงานของตน การปฏิวัติการศึกษาของประเทศนิวซีแลนด์ได้ก่อให้เกิดผลดีต่อการจัดการศึกษาและการบริหารงานของประเทศอย่างไร แต่ที่ประเทศนิวซีแลนด์เองก็มั่นใจว่าประสบความสำเร็จแล้วจริงๆ ก็คือการมีระบบการประเมินผลทั้งภายใน และภายนอก ทำให้สถานศึกษามีการแข่งขันกัน ส่งผลให้เกิดการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้สาธารณชนได้รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียน จึงมีความรู้สึกเป็นเจ้าของโรงเรียน และมีความกระตือรือร้นที่จะสนับสนุนการดำเนินงานมากขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น