วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Go To ABC (Annapurna Base Camp) Episode 1

สะพายเป้ใบโต๊โต Go To ABC (Annapurna Base Camp) Episode 1

Annapurna Base Camp is a unique trek on the foothill of the Annapurna south specially intended of those who love to enjoy the flora and fauna , panoramic view of the Himalayan range in a comfortable way including Annapurna ranges , Dhaulagiri , Fishtail , Gangapurna , Himchuli and other Himalayan rangs. These wonderful views are arranged almost precisely in a circle about 10 miles in diameter with a deep glacier-covered amphitheater at the center. From this glacier basin , known as the Annapurna Sanctuary  . the Modi Khola cuts its way south in a narrow gorge fully 12,000 ft. deep. Further south , the gorge opens up into a wide and fertile valley , the domain of the Gurungs.   
ABC (Annapurna Base Camp) คือ เส้นทาง Trekking ที่ประเทศเนปาล ซึ่งเป็นประเทศที่มีเทือกเขาที่สวยงามอยู่หลายยอดเลยทีเดียว เป็นหนึ่งในเส้นทางยอดนิยม คือ Annapurna region ซึ่งมีหลาย zone ให้เลือก เช่น  Annapurna circuit , Annapurna base camp , jomsom trek , ghandruk trek ตามความยากง่ายในการเดิน จำนวนวันที่ใช้ และระดับความสูงที่ผ่าน โดยจะไปเริ่มต้นกันที่เมือง pokhara ระยะเวลาที่ใช้อยู่ที่ 4-5 วัน จนถึง 20 วัน เช่น  Annapurna circuit ใช้เวลา 16-18 วัน เริ่มเดินจากหมู่บ้าน besisahar เป็นวงกลม วนรอบ เทือกเขา Annapurna แล้วมาปิดทริปที่หมู่บ้าน naya pul เส้นทางนี้จะผ่าน thorong la ที่ความสูงประมาณ 5,416 เมตร และเราก็ตัดสินใจเลือกเส้นทาง Annapurna base camp อยู่ที่ระดับความสูง 4,130 เมตร ทริบของเราใช้เวลาเดินทาง 9 วัน 
นี่ไม่ใช่การเดินทางครั้งแรกของเรากับเป้ใบโตที่โตจริงๆ อาจจะใบใหญ่กว่าคนแบกด้วยซ้ำ เราสนุกกับการเดินทางแบบ Backpack ที่ไม่ต้องง้อทัวย์ให้เสียเวลา ไม่จำกัดเวลาในการชมวิวทิวทัศน์ ไม่จำกัดการกิน ไม่จำกัดการนอน เราทำอะไรก็ได้ตามใจเรา นี่แหละคือการพักผ่อนสำหรับการท่องเที่ยวจริงๆ
ขอเท้าความจากปีที่แล้วที่เราและเพื่อนร่วมทริบอีก 3 คน เป็น 4 สาว ที่สะพายเป้ใบใหญ่มุ่งหน้าสู่ประเทศเนปาล วินาทีนั้นเราไม่เคยรู้จักเนปาลเลย เพื่อนบอกไปปีนเขานะ เราก็งงๆแต่ก็ไม่ปฏิเสธเพราะมีเพื่อนไป แหมเพื่อนชวนไปทั้งมีเพื่อนก็คงเห็นว่าดีแหละน่าเพื่อนถึงพาเราไป ไปครั้งนั้นเราไปทริป Poon Hill ซึ่งเป็นทริปที่เราประทับใจกับธรรมชาติของที่นั่นแต่เสียดายครั้งนั้นเราไม่สามารถมองเห็นทิวเขาที่สวยงามได้เพราะบรรยากาศไม่เป็นใจ หลังจากกลับมาก็หวังอยู่ลึกๆว่าอยากจะไปอีกซักครั้งเผื่อครั้งต่อไปเราจะโชคดีได้เห็นภูเขาที่เต็มไปด้วยหิมะบ้าง (มโนว่ามันคงจะสวยงามมาก) และแล้วความฝันนั้นก็มาถึง เมื่อเมษายน 2557 ที่ผ่านมา เราและเพื่อนร่วมทริป (ตอนนี้มีสมาชิกเหลือเพียง 3คน เพื่อนอีกคน บอกลาทริปปีนเขาซะแล้ว) ก็ตัดสินใจที่จะกลับไปพิชิตมันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เราจะไปไกลกว่าเดิม ซึ่งต้องดีกว่าเดิมแน่นอน ทริปนั้นคือ ABC (Annapurna Base Camp)
ว้าวๆ พอตัดสินใจแค่นั้นแหละเราก็ตื่นเต้นละ เพราะมันเป็นทริปที่ยากเหมือนกันสำหรับนักปีนเขาหน้าใหม่ บอกตรงๆถ้าสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง เข่าไม่ดี ปอดไม่ใหญ่ ใจไม่กล้า ไปลำบากนะขอบอก ขนาดเราคิดว่าเตรียมตัวดีออกกำลังกายก่อนทริปประมาณ 1 เดือนกว่าๆ และพอจะรู้ทิศทางการเดินว่าจะไปในแนวไหน เราก็จัดเต็มพร้อมสุดๆ
พล่ำเพล้อพรรณนามาเยอะละ เด๋วคนอ่านจะเซ็งก่อน งั้นเราไปเริ่มทริปกันเลยค่ะ
สิ่งแรกเลย เราก็ติดต่อกับบริษัททัวย์ที่เนปาล เพื่อหาไกด์และลูกหาบ เราติดต่อกับบริษัททัวย์ที่เราไปเมื่อปีที่แล้วเพราะเราประทับใจในการบริการของที่นี่ เป็นกันเอง และไม่กดขี่ราคาเรามากจนเกินไป จริงๆแล้วหากใครจะไปโดยไม่ติดต่อบริษัททัวย์จะไปหาไกด์เองก็ได้นะคะ แต่พวกเรา 3 สาว เลือกที่จะใช้บริการทัวย์ที่โน่นดีกว่า เพราะเราไม่ต้องเสียเวลาไปหาไกด์ ทำบัตรปีนเขาอีก เอกสารต่างๆทางโน้นเค้าจัดการให้เลย เราส่งแค่พาสปอร์ตไปให้เค้าแค่นั้นเอง อ้อแล้วเราก็ให้เค้าจัดโปรแกรมทริปให้เรา เราแจ้งเค้าไปว่าเราต้องการไปทริป ABC (Annapurna Base Camp) เค้าก็ส่งโปรแกรมมาให้เราว่าจะต้องใช้เวลาเดินทางกี่วัน ไปไหนบ้าง ขอบอกละเอียดมากๆ ในทริปเราเลือกได้ว่าเราอยากจะตัดส่วนไหนออก เราอยากจะเดินทางไปเส้นทางไหนบ้าง ซึ่งการเดินทางทริปนี้เราสรุปที่ 9 วัน กับ ทริป ABC (Annapurna Base Camp)
พอเราได้โปรแกรมทริปแล้ว เราก็ทำการจองตั๋วเครื่องบิน ซึ่งเราโชคดีมาก ได้ตั๋วในราคาถูก คือ 13,000 กว่าบาท เอง ได้ Jet Airway เราขึ้นครั้งแรกเหมือนกันเพราะทริปที่แล้วเราขึ้น Air India โดยเราจะเปลี่ยรรอเครื่องที่ New Delhi ใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆเท่านั้นเอง จริงๆการบินไทยก็มีนะบินตรงแต่แพงไปเพราะเราไปแบบ Backpack ต้องประหยัดสุด คุ้มค่าที่สุด สรุปรวมเวลาไปกลับ ไทย-เนปาล เราใช้เวลา 15 วัน แบบสบายๆ ไม่รีบเร่ง แถมยังได้เที่ยวเพิ่มเติมอีกต่างหาก
Day 1 Arrival in Tribhuwan Internationnal Airport(TIA) , we will be met by alternative treks Airport Representative,and transfer by Private vehicle to selected hotel on we own choice
วันแรกเราออกเดินทางจาก กรุงเทพ-เดลีย์ เดลีย์-กาฐมาณฑุ ออกจากกรุงเทพประมาณ 8 โมงกว่าๆ ดูเป้เราซะก่อน
ถึง กาฐมาณฑุ บ่าย 3 โมงครึ่ง อ้อเราลืมบอกไป visa เราไม่จำเป็นต้องขอจากเมืองไทยก็ได้ถ้าใครไม่สะดวกไปทำที่สนามบินที่โน่นเลยสะดวกมากเราจ่าย 25 ดอลลาห์สำหรับอยู่ 15 วัน  ดูซะก่อนคนมารับเราจัดไปดอกไม้คนพวงใหญ่ๆ เหมือน สส. บ้านเราเวลาหาเสียงเลย อิๆ
วันแรกเราพักที่ธาเมลก่อน 1 คืน แต่วันแรกที่พักเรารู้สึกแย่นิดหน่อยเพราะตอนแรกเรากะว่าจะจองที่พักเอง แต่เพื่อนเราบอกว่าไม่เป็นไรมั้งค่อยให้เค้าหาให้เพราะเราพักแค่ 1 คืน ไม่ต้องซีเรียสมาก เค้าพาเราไปพักที่ Utse เราจ่ายค่าโง่ไปคนละ 20 ดอลล่าห์ เสียดายอะ 3 คน ก็ตั้ง 60 ดอลล่าห์ ซึ่งจริงๆหากเราจองเองจะเสียแค่ 10 ดอลล่าห์สำหรับ 3 คนแค่นั้นเอง แต่ก็เอาเถอะถือว่าเป็นค่าที่เค้ามารับมาส่งเราที่สนามบินละกัน พอถึงที่พักเราก็ต้องจ่ายเงินให้กับบริษัทสำหรับทริป อันนี้ขอเล่าก่อนว่าครั้งแรกที่เค้าจัดทริปให้เรามาแบบ Full Option ทั้งที่พัก อาหารการกินครบ สำหรับทริป 9 วัน สนนราคาอยู่ที่คนละ 600 กว่าดอลล่าห์ โอ้แม่เจ้าแพงไปมั๊ย เจ้ของเราคือพี่สาวใจดีที่ร่วมทริปกับเรานะคะ จัดไปตัดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เราจะทานเอง ที่พักเค้าเลือกให้ เราขอลูกหาบ 1 คน ไกด์ 1 คน จัดไปเบ็ดเสร็จ เราจ่ายเพียงคนละประมาณ 180 ดอลล่า สำหรับทริปนี้ 55 เหมือนได้ฟรี บอกแล้วว่าบริษัททัวย์นี้เค้าใจดี แฟร์ๆกับเรามาก เย้ๆ

Day 2 Drive to Pokhara by tourist bus then stay at hotel on we own choice
เราจะต้องขึ้นรถ 7 โมงเช้าเป็นรถทัวย์สำหรับนักท่องเที่ยว ทุกคนพร้อม 6 โมงครึ่งที่ล๊อบบี้ ขณะที่รอไกด์อย่ากระนั้นเลยเราก็จัดไปกันคนละรูป 2 รูปแบบชิวๆ
จากที่พักเราจะต้องสะพายเป้โต๊โตของเราเดินไปขึ้นรถทัวย์ซึ่งอยู่อีกที่ ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที เป็นบทพิสูจน์แรกของการแบกเป้เดิน จะบอกว่า 5 นาทีแรก ช้านก็ไม่ไหว เริ่มปวดบ่า เพราะเป้ใบใหญ่มากจริงๆ ปกติอยู่บ้านก็ไม่ได้แบกอะไรบนบ่าหนักๆแบบนี้น้า... เราใช้เวลารอไม่นานมากรถเราก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ Pokhara ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสำหรับทริป 9 วันของเรานั่นเอง นอกจากรถทัวย์สำหรับนักท่องเที่ยวไป Pokhara แล้ว คุณๆก็มีทางเลือกได้อีก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงแต่ค่าเครื่องก็แพงอยู่เหมือนกันถ้าเราจำไม่ผิดประมาณเกือบๆ 70 ดอลล่าห์ หรือจะโดยรถตู้แต่เราไม่รู้ราคานะ เราเน้นประหยัด อิๆ เราใช้เวลาเดินทางโดยรถทัวย์ประมาณ 8 ชั่วโมง ก็มาถึง Pokhara รถออก 7 โมงเช้า ถึงประมาณ บ่าย 3 โมง เราพักที่ Castle White เป็นที่พักที่เราเคยพักเมื่อปีที่แล้ว ก็ดีนะสะอาด เป็นกันเอง ครั้งนี้เราพักห้องสำหรับ 3 คน มาถึงเราก็ไม่เหน็ดไม่เหนื่อยกันเลยเราออกไปชมวิวที่ Phewa Lake ทะเลสาบพีวา เป็นทะเลสาบน้ำจืด เราเดินตามทางเดินลัดเลาะเพื่อชมบรรยากาศเราไม่นั่งเรือเพราะครั้งที่แล้วเรานั่งแล้วเลยเลือกเดินชมบรรยากาศรอบๆดีกว่า แล้วเราก็มาสะดุดร้านๆหนึ่ง เลยขอเปิปพิสดารซะหน่อย
ขอบอกว่าถ้าไม่หิวมากไม่ต้องกินก็ได้นะ แฮะๆ เราไปชมทะเลสาบยามเย็นกันต่อดีกว่านะคะ
เก็บตกตอนเย็นเราและเพื่อนมากินอาหารกันที่หน้าปากซอยที่พัก เพื่อนเราสั่งชามะนาว Lemon Tea คุณๆดูรูปชามะนาวที่นี่นะคะ ไม่เข้าใจทำไมเป็นสีแดง ไอ้เขียวๆที่ลอยอยู่อะคะมันคือสะระแหน่ซอยค่ะ (ที่โน่นอาจจะเป็นมิ้นป่าว) 55 ที่นี่มีอะไรแปลกๆให้เราได้ชิมอีกแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น